แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย pun0007za เมื่อ 2014-8-27 15:01
Mesotopus tarandus Breeding Report By…PunPun
รู้สึกช่วงนี้ผมเองจะห่างเหินจากกระทู้ไปนานเลยครับ อยากมาสร้างความครื้นเครง คับคั่ง ซะหน่อย  วันนี้ขอเสนอรานงานของด้วงคีมหลังมันทาแรนดุสครับ
มาเริ่มกันเลย!!!
ขนาดพ่อพันธุ์,แม่พันธุ์: ผู้:65mm เมีย: 48mm (โดยประมานนะครับ ) 
รุ่น:CBF1ทั้งคู่จากคอกเดียวกัน.
การผสมพันธุ์: ใช้วิธีจับเข้าคู่เองและเลี้ยงรวมกัน1อาทิตย์ 
อุณภูมิในการเพาะ:20-25องศา เปิดแอร์เรื่อยๆ
อาหารตัวเต็มวัย: เยลลี่โปรตีน,กล้วยหอมสุก
เลี้ยงไปเลี้ยงมาก็ต้องมีกัดกันบ้าง แรงเยอะไม่เบาเลยหละ 
วัสดุที่ใช้ในการเพาะ: Matวัสดุรองพื้นทั่วไป และ ไม้ผุเชื้อบ่มเห็ดนำขเข้าจากไต้หวัน. ไม้ดูแข็งมากครับ และมันก็แข็งจริงๆด้วย 
เริ่มลงตู้วันที่ ว/ด/ป 08/05/2014
จัดตู้ปกติครับ ปูพื้นบางๆ2cm ใส่ไม้ผุลงไป กรบวัสดุปูพื้น ตกแต่งให้เรียบร้อยครับ 
……………………………………………………………………………………………………………….
หลังจากลงตู้ไปสามวันก็เห็นรอยเจาะ 
……………………………………………………………………………………………………………….
ผ่านไปเรื่อยๆ รอบเจาะโพรงก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆครับ 
น่าลุ้นจริงๆ 
………………………………………………………………………………………………………………. ว/ด/ป 07/06/2014 หลังจากที่ผ่านมาได้ เกลือบเดือน ก็จะได้เวลา รื้อตู้เพาะกันแล้ว เอาหละจะได้หนอน ได้ไข่กันมั๊ยนะ ลงมือ!!!!! หน้าตาตู้เพาะก่อนรื้อ 
ดูจากสพาบหน้าตาของตัวเมีย ดูโทรมไปเยอะครับ แต่ดูๆแล้วยังฟิตๆอยู่ ^^ 
เรามาดูหน้าตาไม้ที่ตัวเมียเจาะกัน 
เป็นโพรงไม่เล็กไม่ใหญ่มาก จะมีไขมั๊ยนะ? 
ขุดๆ ว๊าววว!!!!!! เจอแล้วไข่ฟองแรกของเรา^^ โอ๊ยย ลุ้นแทบแย่ ดีใจสุดๆ  
ไหนๆก็ไหนๆ ให้ตัวเมียพักกินแรงซะหน่อยเผื่อจะได้ลงตู้อีกทีครับ 
เรามาดูกันสรุปได้ทั้งหมดกี่ตัวกี่ฟองกัน!?

หนอน6ตัวไข่8ฟอง! แค่เพาะได้ผมเองก็ดีใจมากแล้ว เจ้าหลังมันให้มาขนาดนี้ เห็นทีต้องเลี้ยงดีๆแล้วหละ

หนอนยังตัวเล็กๆกันอยู่เลย ขอเลี้ยงรวมไปก่อนละกัน โดยใช เศษไม้ที่แม่พันธุ์ของเราได้กัดทิ้งไว้ :) ต้องบอกเลยว่าเป็นด้วงที่แข็งแรงมากๆครับ เพราะไม้ผุที่ได้มา ไม่สามารถใช้มือปล่าวแกะเลยได้ แข็งมากๆ แต่คงเหมาะสำหรับเจ้าตัวนี้เพราะไข่ออกมาในปริมาณที่พอสมควร 
………………………………………………………………………………………………………………. ว/ด/ป 21/06/2014 เนื่องจากช่วงนี้ยุ่งๆยังไม่ค่อยมีเวลา ตัวอ่อนและไข่ที่เลี้ยงรวมไว้ก็คงถึงเวลาที่จะต้องแยกเลี้ยง ไข่ที่ได้มาก็ฝักเป็นตัวหมดแล้ว แต่แน่นอน ไข่ทั้งหมดที่ได้มาอาจจะมีฝ่อบ้างครับ เหลือกันอยู่11ตัว 

แยกเลี้ยงหนอนในกล่องช่องๆ ช่องละ 1ตัวครับ เลี้ยงในนี้ไปก่อนถ้าขนาดใหญ่ขึ้น เราจะต้องเปลี่ยนไปใช้กระปุกแน่นอนครับ ใช้วัสดุรองพื้นนำเข้าจากญี่ปุ่นครับ (กลัวหนอนจะตายเป็นอย่างมาก ลองดูครับ)


สรุปคร่าวๆ กับการ "เพาะ" ด้วงคีมหลัง สำหรับเป็นแนวทางเผื่อนักเพาะคนไหนที่อยากจะลงมือเพาะเจ้าตัวนี้ครับ 1.ด้วงคีมทุกตัวทุกชนิดมีการพักตัว ดังนั้น ก่อนที่จะลงมือเพาะควรดูด้วยว่าด้วงของเรานั้นพร้อมหรือไม่? เพราะว่าถ้าด้วงไม่พร้อมยังไงๆมันก็ไม่ไข่ให้เราหรอกครับ.
2.ด้วงคีมหลังมันทาแรนดุสมีถิ่นกำเนิดจากแอฟฟริกา ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าเรื่องอุณภูมิถ้าไม่เกิน28องศาก็คงเพาะได้สบายๆแต่ถ้าจะให้ดีที่สุดก็ควรอยู่ที่23~25องศาครับ.
3.ไม้ผุที่ใช้ ไม่ควรนิ่มเกินไป(เคยใช้แล้วไม่ไข่เลย) เจ้าหลังมันมีคีมที่แข็งแรงมากดังนั้นไม่ต้องกลัวเลยว่าจะเจาะไม้แข็งๆไม่ได้.
4.จริงอยู่ที่ด้วงคีมหลังมันชอบอากาศที่ชื้นแบบมีไอน้ำตลอดเวลา แต่ถ้าไม้ผุชื้นเกินไป มันก็จะไม่ไข่เช่นกัน ดังนั้นความชื้นของไม้ผุเป็นปัจจัยสำคัญมากในการวางไข่ของเจ้าหลังมันด้วย ถ้าพูดถึง ให้พูดง่ายๆ มันจะชอบไม้ผุที่ค่อนข้างแห้งกว่าปกติซะด้วยซ้ำ.
5.อาหารของตัวอ่อน ตอนนี้ก็ยังเป็นปัญหาของคนที่เลี้ยงในไทย ซึ้งถ้าไครเลี้ยงด้วงก็จะรู้ๆกันอยู่ครับ ว่าพวกด้วงคีมสกุลMesotopus (คีมหลังมัน) และAllotopus (คีมทอง) เนี้ยมันจะกินเชื้อเห็ดคาวาระเป็นอาหารเท่านั้น.....แต่ไม่ได้หมายความว่ามันกินอย่างอื่นไม่ได้ กินได้ครับ แต่ผลจะออกมาอาจไม่ดีพอ ด้วงอาจจะตัวเล็ก และอาจจะตายได้ในบางกรณี. ให้ผมแนะนำตอนนี้ ถ้าอยากจะให้ตัวอ่อนอยู่รอดให้ใช้เป็นMatของคีมโดยตรง ที่มีส่วนผสมเป็นไม้ผุเป็นส่วนใหญ่ คิดว่าคงประทังชีวิตไปได้ครับ.
ขอฝากไว้ตรงนี้กับการเพาะเบื้องต้นเพื่อเป็นแนวทางแก่การเพาะเจ้าตัวนี้ต่อไปครับ
……………………………………………………………………………………………………………….
วันที่01/07/2014 หลังจากที่ผ่านมาซักระยะ ก็ได้เวลาลงตู้ใหม่อีกรอบครับ รอบนี้ใช้ ไม้โอ๊ค ญี่ปุ่นเพาะครับ
แช่น้ำ13ชม. วางห่อหนังสือพิมพ์1วันและนำไปใช้ครับ 

หลังจากผ่านไป1วันเท่านั้น ราเขียวขึ้น.... 
วันที่08/07/2014 หลังจากผ่านมา1อาทิต ต้องบอกเลยครับว่า รามันขึ้นทุกวันจริงๆ ทนไม่ไหว กลัวจะเป็นอันตรายต่อไข่(ถ้ามันไข่นะ) ก็เลยเตรียบใจไว้เลยว่าจะรื้อไม้ออกมาขูดราให้หมด และ จัดตู้ให้ใหม่ครับ มาดูว่ารามันแรงขนาดไหน... 
ด้านข้างตู้ น่ากลัวจริงๆ 
เอาหละ พูดถึงเรื่องเวลาก็แค่อาทิตย์เดียวเอง คิดว่าคงไม่ได้ไข่หรอก แต่ปรากฏว่า มันเจาะเข้าไปเป็นโพรงเล็กๆ และไข่ด้วย!!  
ดูจากหน้าตาไข่แล้วหน้าจะพึ่งวางนะครับ  
ในระยะเวลา1อาทิต เราได้ไข่มา4ฟอง 1ฟองที่วงไว้ โดนราเขียวกินแบบจะๆเลยครับ ไข่เสียเลย(ขออภัยลืมถ่ายรูปครับ ) ส่วนที่เหลือก็ต้องมาลุ้นอีกทีว่า จะฟักออกมาเป็นตัวมั๊ย รอดูต่อไปครับ ราเขียวเป็นสิ่งที่อันตรายมากๆ สำหรับไข่ครับ

ขูดราออกหมดแล้ว ลงตู้ให้ใหม่แล้วครับ รอดูกันต่อไป จะได้ไข่อีกหรือไม่  
ข้อสรุปเพิ่มเติมนะครับ: ขอแก้คำพูดเลยที่บอกว่า จะเพาะเจ้าตัวนี้ต้องใช้ไม้ผุบ่มเชื้อคาวาระเท่านั้น หรือต้องใช้เชื้อเห็ดคาวาระ ในการวางไข่เท่านั้น จริงๆแล้วไม้โอ๊คญี่ปุ่นธรรมดาๆก็เพาะได้แล้วครับ แต่ต้องระวังเรื่องราเขียวเป็นพิเศษเท่านั้น เพราะอากาศบ้านเรามันน่ากลัวจริงๆ ……………………………………………………………………………………………………………….
อัพเดธล่าสุด
วันที่27/08/2014
ต้องขออภัยที่ทิ้งช่วงไปนานหน่อยครับนะครับ ดูเรียงตามวันที่ได้เลยครับ
ย้อนไปเมื่อวันที่ลงตู้ล่าสุดผ่านมาไข่ที่ได้มาทั้งหมดนั่นเสียหมดเลยครับ น่าเสียดายมากๆ 

หลังจากนั้นตัวเมียก็ลาโลกไปเรียบร้อยครับ แต่ก็ยังไม่ได้ให้เพิ่มมาเลย แต่เท่าที่ได้มาก็เยอะพอแล้ว

ขอจบเรื่องงานเพาะเพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณที่คอยติดตามครับ 
……………………………………………………………………………………………………………….
ต่อมาเราจะมาดูเรื่องตัวอ่อนกัน
ย้อนไปเมื่อ ต้นเดือน วันที่1/08/2014
ตัวอ่อนล่าสุดที่ผมได้บอกไปมี "11ตัว" ปัจจุบันเหลืออยู่ "3ตัว" เท่านั้นครับ  
ดูจากท่าทีแล้วคงรับmatคีมปกติทั่วไปไม่ได้ คงไม่อร่อยเท่าเชื้อเห็ดคาวาระหละมั้งครับ
จากรูป ตัวที่ยังรอดชีวิต และตัวที่ตายแล้วครับ

ในเมื่อเหลือ3ตัว ก็ไม่มีทางเลือกแล้วหละครับ ยังไงก็ต้องลงเชื้อเห็ดคาวาระ แต่ในไทยตอนนี้มันขาดตลาดหนะซิ ผมจำเป็นต้องเลือกแล้วหละครับ

วันที่1/08/2014 ตัวอ่อน2ตัวลงเชื้อเห็ดคาวาระ
วันที่8/08/2014 ตัวอ่อน1ตัวลงเชื้อเห็ดนางฟ้า

และเรามารอดูผลที่ออกมากันครับว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
……………………………………………………………………………………………………………….
หลังจากผ่านมาเกลือบเดือน
26/08/2014
เราก็ได้ผลสรุปแล้วหละครับว่า ด้วงมันชอบอะไรมากกว่ากันแน่?
บน:เชื้อเห็ดนางฟ้าKINSHI ล่าง:เชื้อเห็ดคาวาระ KAWARA KINSHI

อยากจะฝากเป็นแนวทางในการเพาะเลี้ยงด้วงคีมชนิดนี้ต่อไปนะครับสำหรับไครที่มีโอกาศหรือกำลังจะลงมือเพาะเจ้าตัวนี้ บางอย่างอาจจะไม่พลาดเหมือนผมครับ:victory:
ข้อสรุปเพิ่มเติม:
1.ตัวอ่อนถึงแม้จะสามารถกินmatด้วงคีมทั่วไปได้ แต่โอกาศตายมีสูงมากครับ,โอกาศรอดมีแต่น้อย สังเกตุได้เลยว่าตัวอ่อนโตช้ามาก.ถ้าตัวเต็มวัยออกมาตัวเล็กแน่นอน(อาจใช้เชื้อเห็ดนางฟ้าให้ตัวอ่อนกินแทนก่อนได้,ลดปัญหาการตายได้ระดับหนึ่ง)
2.ตัวอ่อนของด้วงคีมชนิดนี้ ดีที่สุดเลยต้องกินเชื้อเห็ดคาวาระครับ. (ในไทยตอนนี้ยอมรับหายากจริงๆครับ ต้องรอกันต่อไป )
3.เรื่องการวางไข่ ควรระวังราเขียว ราทุกราให้เป็นพิเศษครับ เพราะมันน่ากลัวจริงๆ ได้ไข่มาหลายฟองฝ่อ เสียหมดจะหมดกำลังใจไปปล่าวๆครับ ควรคุมเรื่องอากาศ ความชื้นให้ดีเป็นพิเศษเพื่อหลีกเลี้ยงปัญหานี้ครับ และนอกจากนี้ คหสต.รื้อตู้เร็วยิ่งดีครับ ลดโอกาศในการที่ราจะเข้ามาทำลายไข่ของด้วงลดปัญหาตัวเต็มวัยตายคาไม้ครับ. สู้ๆครับ :victory:
………………………………………………………………………………………………………………. ติดตามReportได้อีกเร็วๆนี้ ขอบคุณที่คอยติดตามครับ :victory:
|