Siambeetle forum

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครสมาชิก
ดู: 11003|ตอบ: 6

วิธีเพาะด้วงคีมกวางเหลือง [คัดลอกลิงก์]

Rank: 3Rank: 3

เวลาออนไลน์
44 ชั่วโมง
UID
701
เครดิต
455
ความเทพ
16
ประสบการณ์
365
ทองคำ
0
โพสต์
58
กระทู้
8
สมัครสมาชิกเมื่อ
2012-10-10
เข้าสู่ระบบล่าสุด
2014-2-12
โพสต์เมื่อ 2012-10-23 00:40:09 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
หลัง จากทดลองเลี้ยงด้วงคีมกวางเหลืองจนพอได้หนอนแล้วผมจะมาสรุปปัญหาและข้อสัง เกตุเล็กน้อยให้ดูกันครับเจ้าด้วงคีมกวางเหลืองเป็นด้วงคีมที่สามารถเลี้ยง ได้ทุกพื้นที่ของไทยแม้แต่กรุงเทพ เจ้าด้วงตัวนี้สามารถเลี้ยงในอุณหภูมิปกติที่ค่อนข้างร้อนของไทยได้ จากที่เพาะเลี้ยงพบว่าอายุตัวเต็มวัยจะอยู่ประมาณอย่างต่ำหกเดือน จากที่พบตัวมันในธรรมชาติเจ้าด้วงตัวนี้จะกินหน่อไม้ไผ่นวลเป็นอาหาร ซึ่งจะออกประมาณกลางๆหน้าฝนซึ่งตอนนั้นอากาศในตอนกลางวันค่อนข้างร้อนและ ชื้นเพียงแต่เราต้องมีพื้นที่หรือตู้เพาะพันธุ์ที่เหมาะสมให้มันสักหน่อย
   ด้วงชนิดนี้สามารถจับมาเพาะเลี้ยงได้ มันสามารถกินผลไม้รสหวานสุกงอมได้เกือบทุกชนิดเช่น อ้อย กล้วย ขนุนหรือแอปเปิ้ลถ้าไม่มีใช้เยลลี่แทนก็ได้ครับแต่จะได้สารอาหารน้อยกว่า หน่อยครับ สำหรับตู้ที่ใช้เพาะเลี้ยงอาจใช้ตู้ปลา ถังตู้พาสติก หรือบ่อซีเมนต์แล้วแต่สะดวกแต่ทางที่ดีควรหาฝาปิดให้มิดชิดและระบายอากาศใน ตู้ได้ขนาดควรมีขนาดกว้างและสูงมากกว่า30 เซนติเมตรแต่ได้กว้างๆไว้แหละดีครับ ของผมทดลองเลี้ยงในบ่อซีเมนต์
   และตู้ปลาขนาดประมาณกว้าง30 สูง45 เซนติเมตรครับต่อแม่พันธุ์หนึ่งตัวครับ สวนบ่อซีเมนต์ใช้เส้นผ่าศูนย์กลาง 60สูงประมาณ45 เซนติเมตรใช้มุ้งลวดปิดด้านบนใช้แม่พันธุ์สามตัวครับส่วนวัสดุปูพื้นเพือ เพาะพันธุ์นั้นสามารถใช้ อาหารหนอนด้วงหรือวัสดุปูพื้นด้วงกว่างทีมีขายอยู่ทั่วไปได้เพียงแต่ขอให้มี ดินเป็นส่วนผสมเยอะกว่าไม้ผุ และความชื้นที่ใช้เลี้ยงสูงๆเจ้าพวกนี้ชอบวัสดุปูพื้นแฉะถึงแฉะมากครับ

   
มี 4 ผู้ให้คะแนนความเทพ ย่อ เหตุผล
yo2892 + 1 เนื้อหาดีมีสาระ.
DevillBeezebub + 1 เยี่ยมมากๆ
Tigerkub + 1 สุดยอดครับผม
admin + 1 เยี่ยมมากๆ

คะแนนรวม: ความเทพ + 4   ดูบันทึกคะแนน

Rank: 3Rank: 3

เวลาออนไลน์
44 ชั่วโมง
UID
701
เครดิต
455
ความเทพ
16
ประสบการณ์
365
ทองคำ
0
โพสต์
58
กระทู้
8
สมัครสมาชิกเมื่อ
2012-10-10
เข้าสู่ระบบล่าสุด
2014-2-12
โพสต์เมื่อ 2012-10-23 00:41:17 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
     เราสามารถทำวัสดุรองพื้นตู้เองได้ครับ ถ้ามีวัตุดิบ ของที่ใช้ก็จะมี 1.ดินดำขุดมาจากโคนต้นไม้ไผ่ 2.ไม้ผุบดละเอียดและหยาบปนกันไปจากที่ทดลองเลี้ยงใช้ไม้มะรุมผุกับไม้งิ้วผุ ครับซึ่งก็ได้ผลออกมาน่าพอใจวิธีผสมก็คือผมใช้ดินดำประมาณ60 % ไม้ผุบดละเอียดและหยาบผสมกันประมาณ40% ผสมกับน้ำฝนคลุกเคล้ากันให้ทั่ว แล้วนำไปปูพื้นให้สูงกว่า 15 เซนจากก้นตู้หลังจากนั้นใช้ขอนไม้ผุท่อนๆใหญ่ซักหนึ่งท่อน อย่างทีบอกไปแล้วด้วงชนิดนี้ชอบความชื้นเราใส่ขอนไม้ผุลงไปเพื่อให้มันดูด ซับน้ำไว้เพื่อตู้เพาะพันธุ์เราได้ชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา
   ซึ่งผมเลือกใช้ไม้มะรุมผุครับไม้มะรุมจะดูดซับน้ำไว้ได้ดีมาก เมื่อได้ขอนไม้มาควรแช่น้ำไว้หนึ่งคืนแล้วค่อยฝังลงไปในพื้นตู้ ฝังไม่ต้องลึกมากอาจจะให้ขอนไม้โผล่ขึ้นมาบนพื้นตู้สักหน่อยก็ได้เพื่อให้ ตัวด้วงได้เกาะเวลาหงายท้อง  อย่างสุดท้ายคือใบไผ่ครับ เลือกเอาทีมันแห้งและผุแล้วโดยเก็บมาจากโคนต้นไผ่ แช่น้ำไว้หนึ่งคืนแล้วค่อย โปรยลงไปบนพื้นตู้  หลังจากปูพื้นตู้เสร็จแล้วทิ้งไว้สักสองถึงสามวันเพื่อสังเกตดูว่าวัสดุรอง พื้นตู้ร้อนหรือเปล่าเพราะบางทีวัสดุที่เราใช้เมื่อโดนน้ำแล้วหมักไว้อาจ เกิดความร้อนขึ้นซึ่งอาจจะเป็นอันตรายกับตัวด้วงแล้วค่อยปล่อยแม่พันธุ์และ พ่อพันธุ์ลงสู่พื้นตู้

   

Rank: 3Rank: 3

เวลาออนไลน์
44 ชั่วโมง
UID
701
เครดิต
455
ความเทพ
16
ประสบการณ์
365
ทองคำ
0
โพสต์
58
กระทู้
8
สมัครสมาชิกเมื่อ
2012-10-10
เข้าสู่ระบบล่าสุด
2014-2-12
โพสต์เมื่อ 2012-10-23 00:41:55 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
ปัญหา ทีพบเจอหลังจากนั้นคือเจ้าด้วงชนิดนี้ตัวผู้ จะค่อนข้างก้าวร้าวไม่ค่อยยอมผสมพันธุ์และอาจทำร้ายตัวเมียได้ วิธีแก้ไขทีผมทำก็คือตอนที่ได้มาจับมันแยกออกจากกันก่อนซักหนึ่งอาทิตย์ โดยนำตัวผู้ไปใส่ตู้เพาะพันธุ์ทิ้งไว้ก่อนโดยจับตัวเมียแยกไว้อีกทีนึง ตัวผู้เมื่อลงไปในตู้เพาะทีแรก จะตื่นตกใจสักระยะและจะหลบอยู่ใต้ขอนไม้สังเกตุเมื่อตัวผู้เริ่มกินอาหาร แล้วค่อยปล่อยตัวเมียลงตู้ จะสามารถลดอาการตัวผู้หนีบตัวเมียตายได้ครับ
   ปัญหาเรืองการผสมพันธุ์หลังจากปล่อยตัวเมียลงไปในตู้แล้วคือตัว เมียจะมุดดินหนีตลอดไม่ยอมขึ้นมาให้ตัวผู้ผสมพันธุ์ วิธีแก้ไขก็คือเราเอาผลไม้ทีสุกงอมเละๆไปวางล่อตัวเมียไว้บนพื้นตู้จับตัว ผู้ไปอยู่บนผลไม้นั้น
   แล้วฉีดน้ำฝนละอองละเอียดๆลงไปในตู้ให้ชุ่ม (จากการสังเกตุในธรรมชาติเจ้าด้วงพวกนี้ชอบออกมาหลังฝนตก)จากการทดลองทำได้ ผลดีทุกคู่ครับ หลังฉีดน้ำฝนลงไปไม่นานตัวเมียก็ขึ้นมาให้ตัวผู้ผสมพันธุ์โดยดีครับ
   ปัญหาที่พบตอนผสมพันธุ์ก็คือเจ้าด้วงพวกนี้เวลาผสมพันธุ์กันจะ นานกว่าสิบห้านาทีโดยประมาณและต้องการความเป็นส่วนตัวสูงมากครับส่วนใหญ่จะ ผสมกันตอนกลางคืนปราศจากสิ่งรบกวนจากการทดลองเลี้ยงสังเกตุว่า
   ถ้ามีสิ่งมารบกวนตอนด้วงผสมพันธุ์กันเจ้าด้วงตัวผู้จะรีบถอน อวัยวะสืบพันธุ์ออกมาอย่างรวดเร็ว ทำให้อวัยวะสืบพันธุ์ของตัวเมียหลุดตามออกมาทั้งยวง ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ตัวเมียบางตัวสามารถเก็บอวัยวะสืบพันธุ์กลับไปได้
   ในกรณีโชคดี แต่จะได้ไข่หรือไม่นั้นไม่ยืนยันแต่ถ้าตัวเมียเก็บอวัยวะสืบพันธุ์กลับไปไม่ ได้ ก็จะอยู่ได้ไม่นานและไม่ได้ไข่เลย แนะนำทางที่ดีคอยสังเกตุมันห่างๆ อย่าไปยุ่งกับมันตอนผสมพันธุ์ดีที่สุดครับ

   หลัง จากที่ตัวเมียผสมพันธุ์แล้วก็จะหาที่วางไข่ในสองถึงสามวันสังเกตุตัวเมียจะ ขุดดินขึ้นลงๆและจะขึ้นมากินอาหารมากกว่าเก่า ทางที่ดีตอนนี้ควรใช้อาหารทีเป็นผลไม้สุกงอมๆมากกว่าเยลลี่ หรือจะให้น้ำผึ้ง
   กับน้ำอ้อยก็ได้การการทดลองเลี้ยงสังเกตุเจ้าตัวเมียจะปั้นวัสดุ รองพื้นเป็นก้อนกลมแล้วไข่ไว้ข้างใน สวนใหญ่จะวางไข่บริเวณใต้ขอนไม้ หรือใต้ใบไม้และบริเวณทีผลไม้สุกงอมเน่าอยู่นั้นสงสัยว่าที่ตรงนั้นจะชื้น กว่าที่อื่นๆ
    ซึ่งตัวเมียตัวหนึ่งสามารถไข่ได้มากกว่า 20 ฟองเป็นอย่างน้อย  ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดู ในขณะทีตัวเมียวางไข่ควรแยกตัวผู้ออกจากตู้เพาะพันธุ์เพราะบางทีอาจจะไปทำ ร้ายหรือรบกวนตัวเมียได้ ซึ่งตัวผู้ตัวหนึ่งสามารถ
   ผสมพันธุ์ได้หลายครั้ง อาจเอาไปผสมกับตัวเมียอื่นอีกก็ได้ แต่ทางที่ดีควรจับมาแยกพักไว้สักหน่อยแล้วค่อยเอาไปผสมสำหรับตัวเมียทีวาง ไข่แล้วก็เลี้ยงดูตามปกติ แต่ควรขยันฉีดน้ำลงไปบ่อยๆ ปัญหาทีพบเจอในตอนนี้จะมีเพียง ตัวเมียบางตัวมุดดินลงไปวางไข่ได้ไม่นานก็ตาย ลองจับซากมันมาผ่าท้องดูพบว่ายังมีไข่อยู่เต็มท้องเลย
    คิดว่าสถานที่วางไข่ยังไม่เหมาะสมหรือตอนตัวเมียมุดลงไปวางไข่ใน วัสดุปูพื้นทีมีดินเป็นส่วนผสมอยู่ทำให้ติดปากตัวเมียแน่นจนกินอาหารไม่ได้ แล้วจะตายในที่สุด สังเกตถ้าเห็นตัวเมียมีดินติดแน่นอยู่ในปากให้จับมาจุ่มน้ำล้างออกให้หมด หรือใช้แปรงสีฟันขัดเบาๆบริเวณปากมันเพื่อเอาดินออกให้หมดซึ่งอาจจะใช้ฟร็อก ซี่ฉีดน้ำแรงๆให้ดินหลุดออกไปก็ได้   เมื่อได้ไข่แล้วให้ปล่อยทิ้งไว้อย่างน้อยซักสองสามเดือน แล้วค่อยรื้อตู้ออกมาดูหนอนครับ  ซึ่งตอนทดลองเลี้ยงลองเอาไข่แยกออกจากกระเปาะมาฟักเอาเองในแก้วใส ใช้เวลาฟัก 30 วัน เทียบกับไข่ที่อยู่ในกระเปาะ30 วันลองรื้อกระเปาะออกมาดูพบว่าหนอนตัวใหญ่กว่าทีแยกออกมาฟักเอง คงจะเกิดก่อน  สำหรับหนอน ตอนนี้ผมทดลองเลี้ยงในวัสดุปูพื้นอยู่ครับ และมีบางส่วนแยกออกมาเลี้ยงในเชื้อเห็ดครับ ได้ผลยังไงแล้วจะบอกอีกทีครับ  
   
   หมายเหตุ* การเพาะเลี้ยงทำได้หลายวิธี ไม่มีวิธีตายตัว เคยมีพี่คนนึงใช้ไม้ผุผสมดินเล็กน้อยยังได้หนอนด้วงคีมกวางเหลืองเลย
   ที่ผมนำมาลงไว้เป็นการลองผิดลองถูกเพาะครั้งแรกที่ได้ผลลองประยุกต์ใช้กันเอาเองครับ
มี 1 ผู้ให้คะแนนความเทพ ย่อ เหตุผล
BoMsBt + 1 เยี่ยมมากๆ

คะแนนรวม: ความเทพ + 1   ดูบันทึกคะแนน

Rank: 25Rank: 25Rank: 25Rank: 25Rank: 25Rank: 25Rank: 25

เวลาออนไลน์
1477 ชั่วโมง
UID
1
เครดิต
8072
ความเทพ
766
ประสบการณ์
4261
ทองคำ
201
โพสต์
1877
กระทู้
197
สมัครสมาชิกเมื่อ
2012-1-16
เข้าสู่ระบบล่าสุด
2017-1-28
โพสต์เมื่อ 2012-10-24 19:40:20 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
สำเร็จไปหนึ่งขั้น ยินดีด้วยครับ
หลังจากนี้อยู่ที่ทำอย่างไรให้ได้ตัวด้วงเต็มฟอร์มครับ ต้องอาศัยหลายๆคนช่วยกันพัฒนาวิธีการและเก็บข้อมูลกันต่อไป

Rank: 3Rank: 3

เวลาออนไลน์
44 ชั่วโมง
UID
701
เครดิต
455
ความเทพ
16
ประสบการณ์
365
ทองคำ
0
โพสต์
58
กระทู้
8
สมัครสมาชิกเมื่อ
2012-10-10
เข้าสู่ระบบล่าสุด
2014-2-12
โพสต์เมื่อ 2012-10-25 14:20:55 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
ครับผม

Rank: 1

เวลาออนไลน์
5 ชั่วโมง
UID
2014
เครดิต
48
ความเทพ
0
ประสบการณ์
43
ทองคำ
0
โพสต์
5
กระทู้
1
สมัครสมาชิกเมื่อ
2013-10-16
เข้าสู่ระบบล่าสุด
2013-11-2
โพสต์เมื่อ 2013-10-22 18:00:51 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
วัสดุรองพื้นใช้ดินดำอย่างเดียว ไม่ใช้ไม้ผุได้รึเปล่าค่ะ

Rank: 2

เวลาออนไลน์
0 ชั่วโมง
UID
4420
เครดิต
73
ความเทพ
0
ประสบการณ์
69
ทองคำ
0
โพสต์
4
กระทู้
1
สมัครสมาชิกเมื่อ
2015-10-11
เข้าสู่ระบบล่าสุด
2016-6-5
โพสต์เมื่อ 2015-10-12 01:04:01 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ThanaphatW เมื่อ 2015-10-20 02:23

เลี้ยงในเชื้อเห็นเป็นอย่างไรบ้างครับ ตัวได้ใหญ่กว่ามั้ยครับ
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

รูปแบบข้อความล้วน|Siambeetle

GMT+7, 2024-4-18 12:19 , Processed in 0.014361 second(s), 11 queries .

Powered by Discuz! X2

© 2001-2011 Comsenz Inc.

ขึ้นไปด้านบน