แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย pun0007za เมื่อ 2013-7-29 00:20
มาเพาะด้วงกันเถอะ!!
ก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู้จักกันก่อนว่าด้วงแบ่งเป็นกี่ชนิดกันบ้างนะครับ เขาว่ากันว่า ด้วงหรือแมลงปีกแข็งนั้นมีจำนวนที่เยอะที่สุดในโลกซึ้งสามารถแบ่งออกเป็นหลายวงศ์เลยทีเดียวครับแต่ด้วงที่นิยมเพาะเลี้ยงกันส่วนใหญ่มักจะอยู่ในวงศ์Scarabaeidaeครับ เช่นด้วงคีม(Lucanidae) ด้วงกว่าง(Dynastinae)กว่างดาว(Euchirinae)ด้วงดอกไม้(Cetoniinae) เป็นต้น ต่อมาเราจะมาดูวิธีการเพาะด้วงแต่ล่ะชนิดกันนะครับซึ่งแต่ล่ะชนิดก็จะมีวิธีการเพาะที่แตกต่างกันไปหรือบางชนิดก็อาจมีวิธีเพาะที่เหมือนกันครับดังนั้นถ้าเพาะชนิดใดชนิดหนึ่งสำเร็จชนิดอื่นๆที่มีการเพาะเลี้ยงคล้ายๆกันก็สามารถเพาะได้ไม่ยากเช่นกันครับ
อุณภูมิและความชื้น อุณภูมิและความชื้นนั้นเป็นปัจจัยสำคัญมากสำหรับการเจริญเติบโตของด้วงครับอย่างไรก็ตามด้วงทั่วไปที่สามารถพบในประเทศไทยส่วนใหญ่เช่น กว่างชน กว่างญี่ปุ่นด้วงแรดมะพร้าวและด้วงดอกไม้ทั่วไปสามารถเพาะได้ในอุณภูมห้องปกติ25-30องศาเซลเซียสหรืออาจต่ำหรือสูงกว่านิดหน่อยแต่อุณภูมิที่เหมาะสำหรับการเพาะเลี้ยงด้วงคือ23-27ครับขึ้นอยู่กับชนิดของด้วง บางชนิดอาจชอบเย็นมากกว่าเช่นกลุ่มด้วงคีมก้ามปู(Lucanussp.)ที่ต้องการความเย็นกว่า20องศาเซลเซียสในการเพาะเลี้ยงเป็นต้นและนอกจากนี้การเลี้ยงตัวอ่อนในสถานที่ที่เย็น(ประมาน23-26องศาเซลเซียส)ถือเป็นปัจจัยส่วนหนึ่งที่ทำให้ตัวอ่อนเลี้ยงออกมาได้ขนาดใหญ่แต่ในขณะเดียวกันตัวอ่อนก็จะรอกคาบเป็นตัวเต็มวัยช้ากว่าปกติครับ.เรามาดูทางด้านความชื้นกันบ้างความชื้นนั้นเป็นปัจจัยที่สำคัญมากเช่นกันสำหรับการอยู่รอดของตัวอ่อนเพราะถ้าสถานที่อยู่เกิดชื้นแฉะเกินไปก็อาจทำให้ตัวอ่อนตายได้หรือตัวอ่อนอาจเกิดเป็นโรคลายจุดและแน่นอนครับถ้าสถานที่อยู่เกิดแห้งเกินไปก็ไม่ดีต่อตัวอ่อนเช่นกันดังนั้นการเปลี่ยนอาหารให้ตัวอ่อนนั้นต้องดูเรื่องความชื้นเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ควรชื้นเกินไปและแห้งเกินไปครับ.
การผสมพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นด้วงคีม ด้วงกว่าง ด้วงดอกไม้หรือด้วงชนิดอื่นๆก่อนที่เราจะเพาะเราก็ต้องนำด้วงมาผสมพันธุ์กันก่อนครับวิธีการผสมพันธุ์ด้วงมีอยู่หลายวิธีแล้วแต่ถนัดเลยครับแต่ผมจะขอแนะนำว่าให้ใช้วิธีนี้ครับก่อนอื่นควรหาตู้ผสมพันธุ์ ที่มีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไปครับแล้วแต่ชนิดของด้วงแต่ล่ะชนิดครับสามารถใช้ตู้ปลาที่ขายตามร้านขายปลาทั่วไปหรือกล่องพลาสติกที่สามารถหาซื้อได้ตามห้างทั่วไปครับหลังจากที่ได้ตู้ผสมพันธุ์มาแล้วควรจะหาวัสดุปูพื้นให้ด้วงครับเพราะถ้าไม่มีวัสดุปูพื้นอาจทำให้ด้วงเดินไม่สดวกและอาจะทำให้ขาด้วงหักได้ครับวัสดุปูพื้นสามารถหาซื้อได้ที่ www.siambeetle.com ครับหรือจะใช้เป็นดินปลูกต้นไม้ก็ได้ครับแล้วแต่สดวก,เอาหละครับหลังจากที่อุปกรณ์ครบแล้วก็มาต่อกันเลยครับ ก่อนอื่นนำปูพื้นหรือดินปลูกต้นไม้ที่ได้มาไปผสมน้ำครับให้ชื้นพอประมานหรือถ้าชื้นอยู่แล้วก็ไม่ต้องผสมเพิ่มครับ ปูพื้นบางๆในตู้สูงประมาน 2-3เซนติเมตร กำลังดีครับแล้วแต่ขนาดของด้วง(ควรหาเศษชิ้นไม้หรือมอสขาวมาวางเผื่อเพื่อกันด้วงหงายท้องครับ)จากนั้นนำตัวผู้และตัวเมียใส่ลงไปในตู้ผสมพันธุ์เลยครับ อย่าลืมใส่อาหารของด้วงลงไปด้วยนะครับพวกผลไม้สุกหรือเยลลี่ปีโป้ก็ได้ครับรอให้ตัวผู้และตัวเมียอยู่ด้วยกันเองประมาน5-7วันครับแล้วจึงสามารถนำตัวเมียแยกออกไปเพาะในตู้อื่นได้ในกรณีที่กลัวว่าตัวผู้จะทำร้ายตัวเมียระหว่างอยู่ในตู้ผสมพันธุ์โดยเฉพาะด้วงคีมที่มีนิสัยดุเช่นพวกด้วงคีมฟันเลื่อยต่างๆ(Dorcus titanus ssp. )สามารถหาลวดมาพันคีมของตัวผู้ได้ครับ(ตามรูป),ส่วนในกรณีของด้วงกว่างจะผสมง่ายกว่าด้วงคีมครับไม่จำเป็นต้องมาอยู่ด้วยกันนานถึงหนึ่งอาทิตย์ก็ได้ลองจับตัวผู้มาอยู่ใกล้ๆตัวเมียครับถ้าผสมแล้วก็ไม่จำเป็นต้องจำไปอยู่รวมกันครับสามารถจับตัวเมียแยกออกมาเพาะได้เลยครับปกติแล้วด้วงกว่างจะใช่เวลาผสมพันธุ์ประมาน 20-60นาทีครับถ้าเป็นด้วงคีมจะใช้เวลาผสมพันธุ์เพียง3-10นาทีโดยประมานครับ เราจะเริ่มนับเวลาเมื่ออวัยวะเพศของตัวผู้เข้าไปในท้องของตัวเมียแล้วเท่านั้นครับโดยปกติแล้วถ้าอวัยวะเพศของตัวผู้เข้าไปในท้องของตัวเมียแล้วถือว่าผสมติดครับแต่ต้องรอให้ตัวผู้นำอวัยวะเพศออกมาเองนะครับถ้าตัวเมียเกิดหนีระหว่างผสมอาจผสมไม่ติดครับ
ด้วงคีมพาลาวัน(Dorcus palawanicus palawanicus)ที่ถูกมัดคีมไว้ระหว่างเข้าตู้ผสมพันธุ์ขอขอบคุณรูปจากหนังสือFor the Love of RHINOCEROS and STAG BEETLES 《沉醉兜锹》จากไต้หวัน(台湾)
ด้วงคีมทองโรเซ็นฯ(Allotopus rosenbergi rosenbergi)ขณะผสมพันธุ์ใช้เวลาเพียง4-5นาที
ด้วงกว่างซางเหนือ(Eupatorus gracilicornis)ขญะผสมพันธุ์ ผสมนานกว่า40นาที
ด้วงกว่าง(Dynastinae)และด้วงดอกไม้(Cetoniinae) ด้วงกว่างและด้วงดอกไม้บางชนิดจัดถือได้ว่าเป็นด้วงที่เพาะง่ายที่สุดในบรรดาด้วงที่นิยมเลี้ยงที่สุดแล้วครับไม่ว่าจะเป็นการผสมพันธ์ การวางไข่ที่ไม่ต้องใช้ไม้ผุ การเลี้ยงตัวอ่อน ฯลฯ เหมาะสำหรับนักเพาะมือใหม่อย่างยิ่ง ดังนั้นไครที่อยากลองเพาะด้วงก็สามารถหาด้วงกว่างของไทยราคาไม่แพงมาลองเพาะกันก่อนก็ได้ครับ ชนิดที่แนะนำสำหรับนักเพาะด้วงมือใหม่ 1.กว่างชน(Xylotrupes Gideon ssp.) 2.กว่างญี่ปุ่นหรือมูชิคิง(Trypoxylusdichotomus spp.)ถึงจะชื่อกว่างญี่ปุ่นแต่ก็สามารถหาได้ในประเทศไทยครับ3.ด้วงแรดมะพร้าว(Oryctes rhinoceros) เป็นต้น
กว่างญี่ปุ่นหรือมูชิคิงจากประเทศจีน(Trypoxylus dichotomus spp.)
กว่างชนจากประเทศอินโดนีเซีย(Xylotrupes Gideon ssp.)
ด้วงดอกไม้โปลิเฟสมันจากแอฟฟริกา(Mecynorhina polyphemus)เป็นด้วงที่สามารถเพาะได้ง่ายมากเลยทีเดียวครับ
ด้วงคีม(Lucanidae) ในวงศ์ของด้วงคีม(Lucanidae)เองก็สามารถแบ่งได้เป็นหลายกลุ่มเลยทีเดียวครับซึ่งในแต่ล่ะกลุ่มนี้จะมีวิธีเพาะที่แตกต่างกันไปครับเราจะแบ่งเป็นสองประเภทนะครับระหว่างการวางไข่ในไม้ผุและการวางไข่ในดินครับ แต่ปกติแล้วด้วงคีมจะวางไข่ในไม้ผุซะส่วนใหญ่ดังนั้นเรามาดูกลุ่มด้วงคีมที่ไข่ในดินเหมือนพวกด้วงกว่างกันเถอะครับ กลุ่มด้วงคีมที่วางไข่ในดินมีดังนี้: กลุ่มด้วงคีมนีโอฯ(Neolucanussp.),กลุ่มด้วงคีมโอดอนฯ(Odontolabissp.)และกลุ่มด้วงด้วงคีมร่อง(Aegus sp.)เป็นต้นแน่นอนครับอาจจะยังมีด้วงคีมบางกลุ่มที่สามารถไข่ในดินได้อีกเช่นกันแต่ส่วนใหญ่ที่จะพบบ่อยๆมักจะเป็นสามกลุ่มพวกนี้ครับ ชนิดที่ด้วงคีมที่แนะนำสำหรับนักเพาะเลี้ยงมือใหม่ 1.ด้วงคีมร่องเก่า(Aeguschelifer chelifer วางไข่ในดิน) 2.ด้วงคีมฟันเลื่อยธรรมดา(Serrognathusplatymelus platymelusวางไข่ในไม้ผุ)หรือด้วงคีมฟันเลื่อยใต้(Dorcustitanus titanusวางไข่ในไม้ผุ)3.ด้วงคีมแดงธรรมดา(Prosopocoilusastacoides astacoidesวางไข่ในไม้ผุ)เป็นต้น
ด้วงคีมฟันเลื่อยเหนือหรือด้วงคีมฟันเลื่อยธรรมดา(Serrognathus platymelus platymelus)
ด้วงคีมฟันเลื่อยใต้(Dorcus titanus titanus)จะมีลักษณะคีมที่หนากว่าด้วงคีมฟันเลื่อยธรรมดาครับ |