ทำความรู้จักไม้ผุสำหรับเพาะด้วงคีม

admin

มาทำความรู้จักไม้ผุสำหรับเพาะด้วงคีมกันเถอะ




หากพูดถึงการเพาะด้วงคีมทั้งหลายแล้ว

หนึ่งในอุปกรณ์สำคัญที่อาจจะขาดไม่ได้เลยคือเข้าท่อนไม้ผุครับ
ยิ่งถ้าด้วงที่จะเพาะนั้นเป็นพวกสมันทอง หรือด้วงคีมละมั่งด้วยแล้วละก็
หากขาดท่อนไม้ผุ = การเพาะนั้นอดไข่แน่นอน
สาเหตุคือ ด้วงคีมบางประเภทจะวางไข่ในท่อนไม้ผุๆเท่านั้น
(แต่บางชนิดอาจจะโชคดีหน่อยที่ไข่ในแมทรองพื้นได้ พวกนี้ก็จะใส่ไม้ผุหรือไม่ใส่ก็ได้)




ไม้ผุในอุตสาหกรรมการเลี้ยงด้วงของญี่ปุ่นนั้นเป็นไม้ที่ถูกผลิตขึ้นมาแทบจะ 100%

โดยไม้ส่วนใหญ่จะผลิตมาจากต้นคุนูงิ หรือต้นโอ๊คชนิดหนึ่ง
บางชนิดผลิตมาจากต้นโคนาระ ซึ่งใกล้เคียงกันกับต้นคุนูงิ
บางประเภทผลิตมาจากไม้บีชก็มี

โดยจะผลิตมาจากกิ่งสดของต้นไม้ชนิดนั้น คัดกิ่งที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 7-20ซม.

ไม้พวกนี้จะมีวิธีการย่อยสลายหรือการทำให้ผุเร็วที่สุดด้วยวิธีการทางธรรมชาติ

เพื่อที่จะไม่ทำให้เนื้อไม้เสียไปและเป็นที่ชื่นชอบของเจ้าด้วงด้วย
โดยกระบวนการที่ว่านี้คือการกินของเชื้อเห็ดนั่นเอง

ถ้าใครเคยซื้อไม้ของญี่ปุ่นมาใช้จะเห็นรูเล็กๆรอบท่อนไม้และถูกปิดด้วยไม้อะไรบางอย่าง
รูนั้นแหละคือรูที่เขาใส่เชื้อเห็ดเข้าไปในท่อนไม้
เชื้อเห็ดพื้นฐานที่ใส่เข้าไปมีหลายชนิด
ส่วนมากจะเป็นเห็ดชิอิทาเกะ หรือเห็ดหอมของญี่ปุ่น

*** หากใครเคยไปสำรวจด้วงในป่าจะพบว่าเหล่าตัวหนอนด้วงทั้งหลายจะชอบขุดตัวอยู่ในไม้ผุๆสีขาวๆ
ซึ่งไม้ผุๆสีขาวๆนี่แหละคือไม้ที่ถูกเชื้อเห็ดทานไปแล้ว จนกลายเป็นไม้ผุๆนิ่มๆท่อนหนึ่ง ***



ไม้พวกนี้ตอนแรกจะมีเส้นใหญ่ที่แข็งแรงมาก พูดให้เห็นภาพง่ายๆก็คือไม้สดแข็งๆ
หลังจากผ่านกระบวนการยัดเชื้อเข้าไปแล้ว เชื้อเห็ดพวกนี้จะขยายตัวเอง หรือเดินเชื้อเข้าไปในไม้
และจะไปย่อยสลายเส้นใยที่เหนียวแน่นนี้ให้แยกออกจากกัน
ซึ่งเมื่อเส้นใยถูกเปลี่ยนรูปและถูกแยกออกจากกันแล้ว เนื้อไม้ก็จะนิ่มและผุนั่นเอง



หากซื้อไม้ที่ผ่านการยัดเชื้อเห็ดมาใช้ เรามีวิธีการดูความผุง่ายๆตามนี้เลยครับ

1.สังเกตจากน้ำหนัก
ถ้าไม้ที่ผุแล้วน้ำหนักจะลดลงเนื่องจากคุณสมบัติในเนื้อไม้ถูกย่อยสลายไปแล้ว
เนื้อไม้ที่เคยแข็งและหนัก จะถูกเปลี่ยนเป็นนิ่มและเบา บางครั้งถ้าผุมากๆ จะเบาเหมือนกับกระดาษแห้งๆเลยทีเดียว

2.ลองใช้เล็บจิก
ถ้าไม้ที่ผุจะสามารถใช้เล็บจิกลงไปได้และเห็นเป็นรอยเล็บบนไม้
ลองเอาเล็บไปจิกต้นไม้สดๆที่บ้านดูครับ มันจะจิกลงไปไม่ได้
แต่กับไม้ผุๆนั้น จะจิกลงไปได้

3.ต้องลองแช่น้ำให้ไม้อมน้ำแล้วดูว่านิ่มขึ้นหรือไม่ครับ
ไม้ผุจากญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมีความแข็งเล็กน้อย เพราะพวกDorcus จะชอบแทะไม้แข็งนิดหน่อย
ซึ่งไม้ผุพวกนี้จะเป็นอุปกรณ์หลักที่เขาจะนำไปเพาะด้วงคีมยอดนิยมอย่างเจ้าด้วงคีมกระทิงโฮเป


สำหรับไม้ยัดเชื้อพวกนี้ ถ้าใครที่อยากให้ผุหรือนิ่มขึ้นต้องนำไปบ่มเพิ่มกันต่อเองครับ

::::แนะนำวิธีบ่มแบบง่ายๆ ใครๆก็ทำได้::::

1.แช่ขอนไม้ในน้ำให้ท่วมทั้งขอน ประมาณ1วัน






2.นำไม้วางทิ้งไว้ในที่สะอาด เย็น ความชื้นเล็กน้อย อาจจะเป็นในกล่องที่มีรูระบายอากาศเพียงพอ
หรือวางไว้ใต้ต้นไม้ที่ร่มๆ เย็นๆ และมีความชื้น
ยิ่งถ้าเย็นประมาณ 22-25องศาเซลเซียสได้จะยิ่งดีมาก
เพราะจะลดโอกาสการติดเชื้อราเขียวบนขอนไม้ไปได้เยอะมากทีเดียว

(ราเขียวที่พบบนขอนเห็ดมาจากอากาศร้อน และเป็นตัวบ่งบอกที่สำคัญว่าเชื้อเห็ดในขอนไม้นั้นเริ่มอ่อนแอแล้ว)

3.ทิ้งจนขอนไม้เริ่มแห้งครับ
อาจจะงงว่าวางทิ้งไว้ที่ชื้นๆ แล้วจะแห้งได้ยังไง
คือต้องทิ้งจนแห้งแบบชื้นๆนั่นละ อย่าปล่อยให้แห้งทันทีทันใด เพราะเชื้อที่เราใส่เข้าไปนั้นจะตาย
ถ้าเชื้อเห็ดที่จะมาทานไม้นั้นตาย ไม้ก็จะผุช้าลงตามไปด้วย
แถมเสียดายสารอาหารในเชื้อ ซึ่งเป็นอาหารชั้นเลิศของตัวอ่อนด้วงอีกต่างหาก

สีขอนไม้อาจจะคล้ำขึ้นเป็นสีน้ำตาลอ่อน แปลว่าไม้เริ่มผุแล้ว แล้วลองเช็คดูว่านิ่มพอหรือยัง
ถ้ายังไม่พอ ให้ย้อนไปทำขั้นตอนที่1 ซ้ำอีกรอบ
ถ้าไม้ยังเป็นสีเหลืองเข้ม แปลว่าเชื้อในไม้ยังแข็งแรงอยู่ครับ ให้แช่น้ำต่ออีกรอบได้เลย

********************

ขอนไม้ผุจากญี่ปุ่นก็แบ่งเป็นหลายเกรดอีกเช่นกัน
เอาไว้มาต่อตอนหน้าครับ